เกาะฟูก๊วกคือไข่มุกแห่งเวียดนามใต้ที่ผสมผสานความงามของทะเลสีมรกต หาดทรายขาวละเอียด และวัฒนธรรมท้องถิ่นในบรรยากาศสโลวไลฟ์อย่างลงตัว จุดหมายนี้เหมาะทั้งคู่รักที่มองหาทริปโรแมนติก ครอบครัวที่อยากพาเด็กๆ พบธรรมชาติ และสายแอดเวนเจอร์ที่อยากดำน้ำชมปะการังแบบจุใจ เมื่อเลือกเดินทางกับ ทัวร์ฟูก๊วก สุดคุ้ม การเดินทางระหว่างชายหาด หมู่เกาะ และแลนด์มาร์กสำคัญจะราบรื่นยิ่งขึ้นด้วยแพลนที่ออกแบบมาอย่างรอบคอบ พร้อมกิจกรรมครบครันตั้งแต่เช้าไปจนถึงสีส้มระยิบของยามเย็นริมทะเล
ฟูก๊วก: เกาะมรกตที่มีมากกว่าหาดสวย ไฮไลต์และเสน่ห์ที่ห้ามพลาด
ความโดดเด่นของฟูก๊วกเริ่มจากธรรมชาติที่หลากหลาย เกาะหลักรายล้อมด้วยหมู่เกาะอันถอยทางใต้ (An Thoi Archipelago) ซึ่งเป็นแหล่งดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกชั้นดี น้ำทะเลใสจนเห็นปะการังหลากสี ปลาน้อยใหญ่ และน้ำตื้นที่เหมาะกับกิจกรรม Sea Walking สำหรับผู้เริ่มต้น หาดยอดนิยมอย่าง Bai Truong (Long Beach) มีแนวทรายยาวให้นั่งชิลชมพระอาทิตย์ตก ส่วน Bai Sao หรือหาดซ่าวขึ้นชื่อเรื่องทรายละเอียดสีขาวเนียนและน้ำสีฟ้าพาสเทล มุมถ่ายรูปสวยมีให้เลือกแทบทุกโค้งอ่าว
นอกจากทะเล ฟูก๊วกยังมีสีสันทางวัฒนธรรมที่เข้มข้น ดิ่งเกาไนต์มาร์เก็ต (Dinh Cau Night Market) เป็นศูนย์รวมอาหารทะเลสด ของฝาก และงานคราฟต์พื้นเมือง โรงงานน้ำปลา (Nuoc Mam) และสวนพริกไทยคือภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สร้างชื่อให้เกาะจนโด่งดังระดับโลก นักเดินทางสามารถแวะชมกระบวนการผลิตและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพกลับบ้าน
แลนด์มาร์กที่ต้องไปให้ได้คือเคเบิลคาร์ Sun World Hon Thom เส้นทางข้ามทะเลที่ยาวระดับสถิติโลก วิว 360 องศาเผยให้เห็นหมู่เกาะเล็กใหญ่ที่ล้อมฟูก๊วกไว้ราวภาพวาด เมื่อข้ามถึงฝั่งฮอนทอมหรือ “เกาะสนุก” ยังมีสวนน้ำและชายหาดให้เล่นทั้งวัน ด้านตะวันตกตอนล่างคือ Sunset Town เมืองริมทะเลสไตล์ยุโรปสีสันจัดจ้าน จุดฮิตอย่างสะพาน Cầu Hôn (Kiss Bridge) และโชว์แสงสีเสียงกลางแจ้งกลายเป็นภาพจำยามค่ำคืน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกในการจัดเส้นทางและกิจกรรม การจอง ทัวร์ฟูก๊วก ช่วยให้เก็บแลนด์มาร์กครบโดยไม่เสียเวลาต่อรองเรือหรือรถ พร้อมไกด์ท้องถิ่นคอยอัปเดตสภาพอากาศ จุดน้ำใสที่สุดของวัน และช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับถ่ายรูป เพื่อให้แต่ละวันได้ทั้งภาพสวย ความรู้ท้องถิ่น และความปลอดภัยที่วางใจได้
โปรแกรมยอดนิยม 3–4 วัน: เก็บครบทะเล วัฒนธรรม และมุมชิลที่ยากลืม
ทริป 3 วัน 2 คืนเริ่มต้นด้วยการเช็กอินรีสอร์ทริมหาด จากนั้นออกสำรวจโซนเหนือหรือใต้เกาะตามสภาพอากาศ ช่วงบ่ายแนะนำเดินชิลที่ Sunset Town ละเลียดไอศกรีมหรือกาแฟเวียดนามก่อนรอชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกสีทอง เคล้าดนตรีริมทะเลและแสงไฟจากอาคารสไตล์ยุโรป ยามค่ำตรงไปดิ่งเกาไนต์มาร์เก็ต ลองกั้งย่าง หอยเชลล์เนยกระเทียม และปลาหมึกย่างรสเผ็ดหวาน ก่อนปิดท้ายด้วยขนมหวานเวียดนามอย่างเชอหว่า (Che) ที่หอมมัน
วันที่สองมักเป็นไฮไลต์ของผู้หลงรักทะเล ด้วยทริปเรือไปหมู่เกาะใต้ เช่น Hon Gam Ghi, Hon May Rut และ Hon Mong Tay น้ำโซนนี้ใสและสงบในช่วงไฮซีซัน การดำน้ำตื้นเผยให้เห็นกัลปังหา ผักกาดทะเล และฝูงปลาหลากชนิด บางเรือมีบริการ Sea Walking สำหรับผู้ที่ยังไม่ถนัดว่ายน้ำ ระหว่างทางแวะหาดเงียบให้เล่นน้ำ ถ่ายรูป หรือดื่มน้ำมะพร้าวชื่นใจ กลับฝั่งช่วงบ่ายแก่ และถ้ายังมีแรง ทริปตกหมึกกลางคืนคืออีกประสบการณ์สนุกที่หลายคนติดใจ
ทริป 4 วัน 3 คืนจะมีเวลาพอสำหรับโซนเหนือเกาะที่รวมสวนสนุกและธรรมชาติอย่าง VinWonders, Vinpearl Safari และ Grand World ศูนย์รวมความบันเทิงและโชว์กลางคืน เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็ก ช่วงเช้าจัดโปรแกรมท่องอุทยานแห่งชาติฟูก๊วก เดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติแบบเบาๆ เพื่อชมป่าดิบเขาและลำธารใส ส่วนช่วงบ่ายแวะสวนพริกไทยและฟาร์มไข่มุก เรียนรู้เรื่องราวการเพาะเลี้ยงและคัดเกรด ก่อนไปจบที่คาเฟ่วิวทะเลสำหรับจิบกาแฟแบบดริปเวียดนาม
ตัวอย่างการจัดทริปที่ได้ผลจริง เช่น คู่รักฮันนีมูนเลือกพักรีสอร์ทสไตล์พูลวิลล่า จัดกิจกรรมเบาๆ อย่างสปาน้ำมันหอม พ็อกเก็ตซีชันถ่ายภาพที่หาดซ่าว และดินเนอร์ซีฟู้ดริมชายหาด ครอบครัวที่มีเด็กเล็กเน้นวันเที่ยวง่ายๆ ในสวนสนุกและซาฟารี แล้วค่อยไปดำน้ำที่จุดน้ำตื้นสงบ ส่วนสายลุยเลือกเรือสปีดโบ๊ตกลุ่มเล็ก ออกเช้ากลับค่ำเพื่อเก็บจุดดำน้ำหลายแห่ง เทคนิคสำคัญคือปรับโปรแกรมตามทิศลมและช่วงน้ำขึ้นลง เพื่อให้เห็นน้ำใสที่สุดของวันและเดินทางได้อย่างราบรื่น
เคล็ดลับเที่ยวฟูก๊วกแบบมือโปร: เลือกฤดูกาลให้ถูก เตรียมตัวให้พร้อม และเที่ยวอย่างยั่งยืน
ช่วงที่ทะเลนิ่งและใสที่สุดของฟูก๊วกโดยทั่วไปคือพฤศจิกายนถึงเมษายน เหมาะกับการดำน้ำและล่องเรือ ส่วนพฤษภาคมถึงกันยายนเป็นฤดูฝน อาจมีฝนสั้นๆ แต่ยังเที่ยวได้ โดยปรับไปเล่นโซนที่ลมอ่อนและคลื่นต่ำกว่า การตรวจพยากรณ์ลมและคลื่นก่อนออกเรือช่วยให้เลือกอ่าวที่ปลอดภัยและมองเห็นใต้น้ำได้ดีขึ้น
การเดินทางจากไทยนิยมบินต่อเครื่องผ่านโฮจิมินห์ซิตีหรือฮานอย แล้วต่อไฟลต์ภายในประเทศลงสนามบินฟูก๊วก (PQC) สะดวกและมีรอบถี่ คนไทยถือหนังสือเดินทางไทยสามารถเข้าประเทศเวียดนามได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับพำนักระยะสั้นตามเงื่อนไขทั่วไป อย่างไรก็ดี ควรตรวจสอบประกาศล่าสุดก่อนเดินทาง พร้อมเตรียมพาสปอร์ตที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน ประกันการเดินทาง และตั๋วขากลับหรือหลักฐานการเดินทางต่อ
เรื่องค่าใช้จ่าย ฟูก๊วกมีทางเลือกครบทุกระดับ ตั้งแต่โฮสเทลบรรยากาศอบอุ่นไปจนถึงรีสอร์ทหรูริมหาด อาหารทะเลสดใหม่ราคาเป็นมิตร และคาเฟ่สวยให้แวะถ่ายรูปหลายแห่ง การแลกเงินเป็นดองเวียดนาม (VND) ช่วยให้จ่ายสะดวก โดยร้านส่วนใหญ่รับเงินสดและบัตรในย่านท่องเที่ยว อินเทอร์เน็ตแนะนำซื้อซิมท้องถิ่นหรือ eSIM เพื่อเรียกรถผ่านแอปและค้นหาเส้นทางได้คล่อง การเดินทางภายในเกาะใช้แท็กซี่ รถเช่า หรือรถของทัวร์ ขึ้นกับสไตล์และความมั่นใจในการขับขี่
การเตรียมอุปกรณ์ควรมีครีมกันแดดแบบ Reef-Safe เสื้อกันแดด ผ้าคลุมกันลมบนเรือ และรองเท้าแตะยางที่ยึดเกาะดีสำหรับหาดหิน พกถุงกันน้ำสำหรับโทรศัพท์และเอกสารสำคัญ หากมีแพลนดำน้ำ ควรหลีกเลี่ยงการทาครีมกันแดดก่อนลงน้ำทันที ให้ทาก่อนออกเรือเพื่อซึมเข้าสู่ผิว เพื่อลดผลกระทบต่อแนวปะการัง
การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบคือหัวใจสำคัญของเกาะมรกตแห่งนี้ หลีกเลี่ยงการยกปลาดาวขึ้นจากน้ำเพื่อถ่ายรูป ไม่เหยียบปะการัง หลีกเลี่ยงการให้อาหารปลา และลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง ทิ้งขยะในจุดที่กำหนดหรือพกกลับ ฝึกมารยาทบนเรือโดยรักษาความเงียบในจุดดำน้ำและเคารพชุมชนประมงท้องถิ่น แค่นี้ก็ช่วยให้ทรัพยากรธรรมชาติของฟูก๊วกคงอยู่สวยงามต่อไป
เคล็ดลับสุดท้ายเพื่อความสบายใจคือเลือกบริษัทนำเที่ยวที่มีมาตรฐานความปลอดภัย อุปกรณ์ดำน้ำสะอาด มีประกันคุ้มครอง และไกด์ที่รู้เส้นทางทะเลจริง พร้อมปรับแผนตามสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ เมื่อรวมกับการวางตารางแบบยืดหยุ่น จะทำให้การเที่ยวฟูก๊วกเต็มไปด้วยความทรงจำดีๆ และภาพถ่ายที่อยากหยิบมาดูซ้ำ
สนใจแพ็กเกจทัวร์ฟูก๊วกและเวียดนามใต้ ติดต่อ Letago ได้เลย!
เว็บไซต์: https://letago.com/destinations/asia-tour/vietnam-tour/southern-vietnam-tour/
โทรศัพท์: 085-4063944, 083-6783311
นอกเวลาทำการ Hotline: 085-4063944
LINE ID: @letagotravel

